HI Folk
Introduction to Azure Site Recovery
บทความนี้ผมจะกล่าวถึงการใช้งานเซอร์วิสตัวหนึ่งของ
Microsoft
Azure ที่ทุกคนสามารถใช้งานได้ไม่ยากและที่สำคัญฟรี 1 เดือนด้วยครับสำหรับรายละเอียดเรื่องฟรี
เดี๋ยวผมจะมาอธิบายอีกทีนะครับ ก่อนอื่นต้องบอกว่า Microsoft Azure นั้นมีเซอร์วิสมากมายจริงๆที่ให้หยิบมาใช้กัน สามารถดูได้จาก Azure
Marketplace แต่สำหรับบทความนี้ผมจะพูดถึงเจ้า ASR กันครับ เจ้าเซอร์วิสนี้ที่ชื่อว่า “Azure Site Recovery” (ASR) หรือเรียกสั้นๆ ว่า ASR และกันนะครับ ซึ่งเจ้าตัว ASR
นี้คือเซอร์วิส Disaster Recovery as a Service (DRaaS) นั้นเองครับ
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเจ้า ASR
(Azure Site Recovery) กันครับ 😊
What is Azure Site Recovery?
ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายๆเจ้า ASR ก็คือเครื่องมือหรือบริการในการบริหารจัดการความเสี่ยงที่เกิดจากภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นกับ
Datacenter ของคุณนั้นเองหรือภาษาทุกคนน่าจะรู้จักกันดีคือการทำ
BCDR (business continuity and disaster recovery)
เพื่อให้เกิด availability , planned
and unplanned downtime
Why use Site Recovery for application
replication?
ต้องบอกว่าความสามารถของเจ้า “ASR” นั้นมีมากมายเหลือเกินผมขอสรุปคร่าวๆดังนี้ครับ
- การ Replicate VM , Test Failover, Planned and Unplanned Failover and Failback สำหรับ Hyper-V สามารถตั้งค่าในการ Replicate ได้ต่ำสุดที่ 30 วินาที และ สำหรับ VMware นั้นจะเป็นแบบ Continuous Replication ซึ่งจะ RPO ของทั้งสองแบบหลักๆ ก็จะขึ้นอยู่กับ Bandwidth นั้นเองครับ
- รองรับ VMware , Hyper-V และ Physical ส่วน OS รองรับทั้ง Windows\Linux
- รองรับการทำงานในระดับ Application-Level ด้วยรูปแบบ Application Consistency โดยการ Snapshot Data ในหน่วยความจำและTransection ทั้งหมดที่กำลังประมวลผลอยู่ ซึ่งแอพที่รองรับได้แก่ SQL(Always On), Exchange(DAG), SharePoint, SAP และอื่นๆ สามารถดูเพิ่มได้จาก Supported Workload
- รองรับรูปแบบการทำงานสองแบบ คือ On-premise to Azure และ Primary site to Secondary site สำหรับ รูปแบบแรกนั้นจะประหยัดค่าใช้จ่ายมากที่สุดเพราะเราไม่ต้องลงทุน Secondary Site นั้นเองครับ
- รองรับการสร้าง Recovery Plans สำหรับการกำหนดแผนการกู้ระบบซึ่งสามารถทำงานร่วมกับเซอร์วิสอื่นของ Azure ได้แก่ Automation and Traffic Manager เพื่อช่วยลด RTO ให้หน่อยที่สุด
- การทำ Test-failover โดยไม่กระทบกับ Production
- ใช้สำหรับการ Migration On-premise to Azure โดยจะไม่มีผลกระทบกับ Productions เลยระหว่างการ Replicate แต่จะมี ช่วง Downtime สั้นๆ สำหรับ Cutover และ การ Migration AWS to Azure
- ใช้สำหรับการทำ Dev/Test Environment คือการนำเครื่อง Production ของท่าน ขึ้นไป ปูยี้ปูย้ำบน Azure นั้นเองครับ ยกตัวอย่างเช่น อัพเดท Patch ใหม่ หรือ Run feature ใหม่ๆ
ทีนี้คงจะพอเห็นภาพกันบ้างแล้วนะครับว่าเจ้า “ASR” เนี่ยสามารถทำอะไรได้บ้าง.. สำหรับข้อมูลเรื่องของ Limitation ที่ Supported และ Unsupported สามารถดูได้จากลิ้งนี้เลยครับ https://docs.microsoft.com/en-us/azure/site-recovery/site-recovery-support-matrix-to-azure
ก็ขอจบเรื่องราวในการแนะนำเจ้า
“ASR” ไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะครับและสำหรับตอนต่อไปผมจะพูดถึงกรณีการใช้ “ASR”
สำหรับ VMware(On-premise) to Azure ภาพด้านล่างคือรูปแบบส่วนประกอบหลักๆ(Components)
ของ ASR for VMware.
P.S. Special Thank N'Nut@AMR ASIA สำหรับบทความนี้ด้วยนะครับ
TC & Nut
2017/03/07
nice blog. thanks for sharing Devops Tutorials.
ตอบลบMicrosoft Azure Online Training